การล้างมือบ่อยๆดีอย่างไร

 

การล้างมือบ่อยๆเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อรักษาความสะอาดและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ดังนั้นนี่คือขั้นตอนที่คุณสามารถทำเพื่อล้างมือให้มีประสิทธิภาพ

1.ใช้สบู่และน้ำ: ใช้น้ำสะอาดและสบู่ล้างมืออย่างเพียงพอ ทิ้งสบู่ลงในมือและใช้น้ำที่ไหลล้างมือให้สะอาด แนะนำให้ล้างมืออย่างน้อย 20 วินาที

2.ล้างทั้งหลายด้านของมือ: ไม่เพียงแต่แค่บริเวณฝ่ามือ แต่ควรล้างทั้งหลายด้านของมือรวมถึงหลังมือ ระหว่างนิ้ว และใต้เล็บด้วย

3.การใช้น้ำไตรจีเอล: หากไม่สามารถใช้สบู่และน้ำได้ คุณสามารถใช้น้ำยาล้างมือที่มีไตรจีเอล (alcohol-based hand sanitizer) ซึ่งมีอยู่ในตลาดให้เลือกหลากหลาย

4.การล้างมือในช่วงเหนื่อยหรือเครียด: หากคุณมีความเร่งด่วนในการล้างมือ เช่น ในช่วงเวลาที่คุณเร่งรีบหรือกำลังใจมาก ควรล้างมือให้สะอาดโดยเฉพาะ เมื่อสัมผัสสิ่งของหรือพื้นผิวที่สามารถถ่ายตัวเชื้อโรคได้

5.การล้างมือหลังสัมผัสพื้นที่สาธารณะ: เมื่อคุณได้มาสัมผัสพื้นที่สาธารณะ เช่น ประสบการณ์ในสถานที่สาธารณะ หรือในที่ทำงาน ควรล้างมืออย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค

6.การล้างมือหลังการสัมผัสสิ่งของ: หลังจากสัมผัสสิ่งของที่อาจมีเชื้อโรค เช่น เงินสด มือถือ หรือเครื่องมืออื่นๆ ควรล้างมืออย่างสม่ำเสมอ

การล้างมือบ่อยๆเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค และมีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพส่วนตัวและสังคมให้ปลอดภัยโดยรวม การปฏิบัติตามขั้นตอนการล้างมือที่ถูกต้องจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคและเป็นการดูแลสุขภาพที่ดีอย่างสำคัญ

การล้างมือบ่อยๆป้องกันโรคอะไรได้บ้าง

การล้างมือบ่อยๆเป็นมาตรการสำคัญที่ช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของหลายๆ โรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคที่แพร่กระจายผ่านการสัมผัสที่มือ เช่น

1.โรคระบาดตับอักเสบ A (Hepatitis A): เชื้อไวรัสที่สามารถแพร่ระบาดผ่านการสัมผัสกับเศษอาหารหรือน้ำที่มีเชื้อไวรัส การล้างมือให้สะอาดเป็นสิ่งที่สำคัญในการป้องกันโรคนี้

2.โรคคอตีบ (Diphtheria): เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่สามารถแพร่ระบาดผ่านการสัมผัส การล้างมือเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคนี้โดยเฉพาะในสถานที่ที่มีการระบาดของโรคคอตีบ

3.โรคท้องเดือน (Giardiasis): เกิดจากเชื้อราหรือโปรโตโซเวียท์ที่มีอยู่ในน้ำที่มีเชื้อโรค การล้างมือหลังการใช้ห้องน้ำหรือก่อนรับประทานอาหารสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อ

4.โรคไข้เลือดออก (Dengue Fever): การล้างมือบ่อยๆ ช่วยลดโอกาสในการแพร่ระบาดของยุงที่เป็นพาหะของเชื้อไวรัสต่างๆ เช่น เชื้อไวรัสไข้เลือดออก

5.โรคทางเดินอาหาร (Foodborne Illnesses): โรคที่เกิดจากการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่ปนเปื้อนด้วยเชื้อโรค เช่น โรคอุจจาระร่วง การล้างมือก่อนการจัดเตรียมอาหารและก่อนการรับประทานอาหารสามารถลดความเสี่ยงได้

6.โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza): การล้างมือบ่อยๆ ช่วยลดโอกาสในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ผ่านการสัมผัสสิ่งของหรือผิวหนังที่ปนเปื้อนด้วยเชื้อโรค

 

การล้างมือเป็นมาตรการง่ายๆ แต่มีผลที่สำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคที่แพร่ระบาดผ่านการสัมผัสที่มือ การปฏิบัติตามขั้นตอนการล้างมือที่ถูกต้องจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคและเป็นการดูแลสุขภาพที่ดีอย่างสำคัญ

ได้รับการสนับสนุนโดย        เครื่องช่วยฟังซื้อมาใส่เองได้ไหม

เปิดเคล็ดลับสุขภาพดีสดใสได้ในทุกวัน

การสร้างสุขภาพร่างกายที่ดีให้แก่ตนเองในสมัยปัจจุบันนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หรือควบคู่ไปกับการเลือกรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์อยู่เป็นประจำ

แต่ยังมีอีกหลายปัจจัยมาก ๆ ที่สามารถช่วยส่งเสริมการมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ชีวิตในประจำวัน ซึ่งเราก็ควรที่จะให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดี เพื่อที่เราจะได้มีร่างกายที่แข็งแรง ปลอดภัยจากโรคร้าย

รวมไปถึงมีสุขภาพร่างกายที่สดชื่นแจ่มใสได้ในทุก ๆ วัน เพราะโดยทั่วไปแล้วในแต่ละวัน คนเราใช้ชีวิตแข่งกับเวลากันเยอะมาก ๆ

จนทำให้ไม่ค่อยได้สนใจการดูแลสุขภาพร่างกาย และปล่อยละเลยอาหารมื้อสำคัญเป็นประจำ โดยเฉพาะมื้อเช้า ซึ่งหลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า มื้อเช้านั้นนอกจากจะเป็นมื้อแรกของวัน

ยังเป็นมื้อที่สามารถช่วยเพิ่มพลังงาน และความสดชื่นให้แก่ร่างกายของเราได้อีกด้วย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องทานมื้อเช้าเป็นประจำเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงอยากที่จะมีสุขภาพร่างกายที่ดี มีร่างกายที่สดชื่น แจ่มใส

ซึ่งก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถสร้างสุขภาพร่างกายที่ดี และเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกายได้ในทุกวัน จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย 

การทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ คนส่วนใหญ่มองว่า เพียงแต่เราทานอาหามื้อที่สำคัญก็เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แต่รู้หรือไม่ว่า การที่เราจะสร้างสุขภาพร่างกายที่ดี

สร้างความสดใสให้แก่ร่างกายของเรานั้นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ การหมั่นทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เพื่อเป็นการเพิ่มสารอาหาร หรือพลังงานดี ๆ ให้อก่ร่างกายของเรา เพื่อที่เราจะได้มีสุขภาพร่างกายที่ดี มีความสุขกับการใช้ชีวิตนั่นเอง 

การดื่มน้ำให้มากขึ้น คนส่วนใหญ่รู้แค่ว่า การที่เราดื่มน้ำวัน 8 แก้วก็คงเพียงพอต่อร่างกาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว    hoiana เวียดนาม      การสร้างสุขภาพร่างกายที่ดี และการเติมความสดชื่นให้แก่ร่างกาย เราสามารถทำได้ด้วยการดื่มน้ำให้มากขึ้น

เพราะน้ำถือเป็นส่วนประกอบสำคัญของร่างกาย ยิ่งเราดื่มมาก ๆ จากเดิม ร่างกายของเราก็จะรู้สึกสดชื่น มีพลังงานมากยิ่งขึ้น และทำให้การใช้ชีวิตของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

การดูแลความสะอาดของตนเองอยู่เสมอ นอกจากการดูแลสุขภาพร่างกายจากภายในแล้ว ภายนอกเราก็ควรที่จะให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน ยิ่งถ้าเป็นในเรื่องของความสะอาดยิ่งต้องดูแลเป็นอย่างดี

เพราะหากร่างกายของเรารู้สึกสะอาด เชื้อโรคต่าง ๆ ก็จะไม่เข้าสู่ร่างกาย จึงสามารถทำให้เรานั้นสามารถที่จะสร้างสุขภาพร่างกาย และสร้างความสดชื่นให้แก่ร่างกายได้

ความเครียดส่งปัญหาต่อร่างกายมนุษย์เราอย่างไร

ความเครียดส่งปัญหาต่อร่างกาย หากย้อนหลังไปในอดีต เราจะเห็นได้ว่าความเครียดนั้น มันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถที่จะจับต้องได้ โดยส่วนใหญ่เรามักจะสนใจแค่ตับดี ไตดี กล้ามใหญ่ หรือไขมันน้อย แต่ทว่าได้เปลี่ยนไป พอเข้าสู่ยุคเหล่านี้จะเห็นได้ว่าทางการแพทย์ได้มีการพัฒนามากขึ้น

โดยในยุคนี้ได้มีการพัฒนาสามารถที่จะดูข้อมูลจากในเลือดของเรา ไม่ว่าจะเป็นการเจาะ หรือว่าการนำเลือดไปตรวจ แล้วสามารถที่จะบ่งบอกไปถึงสภาวะเกี่ยวกับความเครียดของจิตของเราได้แล้วนะ

สำหรับอวัยวะที่เป็นการกำหนดหรือการเข้ามาควบคุมทางด้านความเครียดต่างๆของร่างกาย นั่นก็คือสมองของเรา แต่นอกจากกนั้นก็ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่เรียกว่าต่อมหมวกไต โดยมีชื่อเรียกที่เป็นภาษาอังกฤษว่า Adrenal Gland

โดยจะมีลักษณะเป็นต่อมที่มีขนาดเล็ก เกาะอยู่บนไตของเราทั้งสองข้างด้วยกัน ถ้าหากว่าใครก็ตามที่เคยดูหนังจีนในเวลาที่เขาแมะเสร็จ พวกเขาจะมีการเรียกต่อมหมวกไตนี้ว่า ชี่ หรืออีกอย่างว่าพลังชีวิต โดยถ้าเทียบว่าการมีชี่เยอะก็เท่ากับว่าจะมีพลังงานชีวิตเยอะ จึงทำให้เรี่ยวแรงก็ดีตามไปด้วย 

โดยปัจจุบันนี้ต่อมหมวกไตจะทำการหลั่งฮอร์โมนที่เป้นสำคัญๆ ทั้งหมด 2 ตัวด้วยกัน ที่ข้องเกี่ยวกับความเครียดของเราโดยมีดังนี้

ตัวที่ 1. มีชื่อว่า คอร์ติซอล สำหรับในทางสายกลางหากว่ามีเยอะจนเกินไปเราจะเรียกมันว่าความเครียด

ตัวที่ 2. มีชื่อเรียกว่า DHEA โดยสำหรับ DHEA นี้เราจะเรียกมันว่าตัวต่อต้านฮอร์โมนความเครียด

ซึ่งทั้งสองตัวนี้จะมีการทำงานให้มันบาลานซ์กัน โดยถ้าหหากว่าฮอร์โมนเครียดของคนเรามีเยอะ จะทำให้ตัวนี้เหลือน้อยลง และถ้าหากว่าฮอร์โมนเครียดของเรามีน้อยก็จะส่งผลให้ DHEA มีเยอะมากขึ้น ถ้าจะให้จำง่ายๆจะเป็นดังนั้น    ทัวร์คาสิโน    คอร์ติซอลต้องอย่ามีเยอะหรือมีมาก เพราะจะต้อง DHEA เยอะๆมากเช่นกัน

ซึ่งในขณะเดียวกันเวลาที่มีคอร์ติซอลหรือเวลาที่มฮอร์โมนเครียดที่เยอะ ก็จะทำการส่งข้อมูลที่เป็นสัฤญญาณโดยผ่านสแปรงนิค เนิร์ฟ (Splanchnic nevrve) ส่งขึ้นไปยังส่วนที่เป็นสมองของเรา จากนั้นจะส่งผลให้เกิดความเสียหายขึ้นมาอีกมากมาย และเมื่อเวลาที่เรานั้นมีคอร์ติซอลที่เยอะขึ้น

จะส่งผลให้เกิดสารที่เป็นสารอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้นเยอะตามไปด้วย หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งคือ (Free Radical) คือมันจะเข้าไปทำร้ายร่างกาย ทำลายเกี่ยวกับเซลล์ ส่งผลทำให้เราเกิดความเจ็บป่วยขึ้นได้ ซึ่งเวลาที่พวกเรามีสารฮอร์โมนที่เกิดความเครียดที่สูงขึ้น ก็จส่งผลก่อให้เกิดความอักเสบที่เยอะขึ้นไปด้วย

เคลียร์ห้องนอน ให้กลับมาเป็นห้องนอน

เคลียร์ห้องนอน ให้กลับมาเป็นห้องนอน ห้องนอนหัวใจหลักของมนุษย์ เพราะทุกคนต่างต้องนอน และจะยิ่งทำให้การนอนมีประสิทธิภาพหากห้องนอนถูกสุขลักษณะ อีกทั้งห้องนอนสามารถเป็นที่พักผ่อนใจ หากดูแลให้ดีจะยิ่งดีต่อจิตใจ ดังนั้นเรามาจัดห้องนอนกันดีกว่า

– เคลียลิ้นชัก รวมทั้งตู้สำหรับเก็บของ ทุกตู้ โต๊ะ ชั้น ที่มีการเก็บ วาง แอบ ซุก หลบซ่อน อะไรเอาไว้ก็ตาม จำต้องจัดแจงให้ครบจบในครั้งเดียว จำเอาไว้ว่านี่เป็นการจัดกฎระเบียบห้องนอนใหม่ ไม่ใช่การเลือกว่า ทิ้ง หรือ เก็บ พวกเราแค่เพียงย้ายของที่ไม่ใช่ ไม่สมควรอยู่ภายในห้องนอนกลับไปไว้ที่ ๆ ควรจะอยู่เพียงแค่นั้น เมื่อคิดได้อย่างงี้ จะก่อให้การตัดสินใจทำเป็นเร็วขึ้น

– ปูผ้าสะอาดบนเตียง แล้วก็รื้อถอนของออกมาครั้งละชั้น คัดขยะ และ ของที่ควรจะอยู่ห้องอื่น หรือของที่ควรไปเก็บไว้ที่อื่น

– เอาของที่ควรจะอยู่ห้องอื่นออกไปก่อน โกยใส่กระเช้าเอาไว้ก่อน ขั้นตอนของ     เครื่องช่วยฟัง      นี้ไม่สมควรใช้เวลานาน เนื่องจากเป็นการย้ายของกลับไปในที่ ๆ ควรจะอยู่เพียงแค่นั้น

– ก่อนเก็บเข้าชั้น ถามตนเองอีกสักหนึ่งครั้งว่าพวกเราจะต้องใช้ของพวกนี้ในห้องนอนจริง ๆ ไหม

– ตู้ที่มีไว้สำหรับใส่เสื้อผ้า ให้ท่านตั้งสติรวมทั้งนำทุกสิ่งทุกอย่างออกมาจากตู้เสื้อผ้า วางเอาไว้ด้านบนเตียง จะมีผลให้พวกเราเห็นภาพชัด ๆ ว่าเสื้อผ้าที่พวกเรามี บางทีอาจถูกใช้จริงไม่ถึงครึ่งของเสื้อผ้าทั้งหมดทั้งปวงที่พวกเรามีอยู่

– แยกเสื้อผ้าที่ไม่ได้อยากต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการคัดเลือกทิ้ง หรือ นำให้บุคคลอื่น จัดแจงสะสมไว้ภายในกล่อง

– จัดแจงของชิ้นใหญ่ก่อน อย่างเช่น ผ้าที่มีไว้เช็ดตัว ที่นอนหมอนมุ้ง เสื้อกันหนาว

– จัดแจงเสื้อผ้าที่ห้อยอยู่ รวมทั้งต่อด้วยเสื้อผ้าพับ แยกเสื้อผ้าที่ ขาด เก่า เปรอะ เสียหาย รวมทั้งไม้แขวนเสื้อที่หมดสภาพออกไป ทดลองใส่บ้างแบบเร็ว ๆ เพื่อไม่ให้เสียเวลา

– ของที่มีคุณค่ากับจิตใจ พวกเราไม่สามารถที่จะเก็บรูปภาพที่ถ่ายมาตลอดชีพเอาไว้ได้แม้ว่าจะอยู่ในแบบไหนก็ตาม ข้อแนะนำที่ง่ายที่สุดเป็นเลือกเก็บเฉพาะสิ่งที่สื่อความหมายต่อพวกเรา รวมทั้ง ให้ท่านค่ากับพวกเราอย่างแจ่มแจ้ง ส่วนของที่ทำให้พวกเรารู้สึกเสียใจดวงใจกล่าวคำลา รวมทั้ง จัดแจงทิ้งไป

– กล่องเก็บความทรงจำ ใช้เก็บรวบรวมของที่สื่อความหมายแล้วก็มีคุณค่าต่อสถาพทางจิตใจ เลือกเก็บเฉพาะชิ้นที่สื่อความหมายเยอะที่สุด

– Digital files รูปภาพ จดหมาย การ์ด บัตรต่าง ๆ สามารถถ่ายภาพ สแกน เก็บไว้ภายในแบบ digital format

– 10 นาที ก่อนไปนอน ใช้เวลา 10 นาทีก่อนไปนอน เก็บของในห้องให้เข้าที่เข้าทาง รวมถึงจัดแจงของใช้สำหรับวันพรุ่ง เพื่อทุกยามเช้าที่ตื่นมา เต็มไปด้วยความสะอาดสดใสและก็เป็นการเริ่มวันใหม่ที่แสนแจ่มใสในแต่ละวัน

3 เหตุผลที่เราไม่ควรออกกำลังกายตอนที่ท้องว่าง

ถึงแม้ว่าการออกำลังกาย จะเป็นกิจกรรมที่ดีต่อร่างกาย หรือได้รับความนิยมมากขนาดไหนก็ตาม แต่รู้หรือไม่ว่า การออกกำลังกายก็ย่อมมีทั้งวิธีที่ถูกต้อง และไม่ถูกต้อง หากใครที่ต้องการสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกาย

อยากสร้างสุขภาพร่างกายที่ดีให้แก่ตนเอง การที่เรามองหาการออกกำลังกายที่เหมาะสม และถูกวิธีจะยิ่งส่งผลดีต่อร่างกายของเรา เนื่องจากการออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ

ไม่เพียงแต่ช่วยให้เรามีร่างกายที่แข็งแรง แต่ยังเป็นการสร้างสุขภาพจิตของเราให้สดชื่น แจ่มใส และไม่เครียดได้ เพราะคนส่วนใหญ่มีปัญหาการใช้ชีวิตด้วยความเครียดความกดดัน จนส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อร่างกาย

ฉะนั้น การออกกำลังกายจึงเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ตอบโจทย์มาก ๆ ซึ่งรู้หรือไม่ว่า การที่เราจะออกกำลังกายให้เหมาะสม

เราไม่ควรที่จะออกกำลังกายตอนที่ท้องของเรากำลังว่า เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราได้ง่าย แถมยังอาจก่อให้เกิดความอันตรายขึ้นกับร่างกายของเราได้ ซึ่งเราเชื่อว่าหลาย ๆ คนก็มักที่จะมองข้ามปัญหานี้ไป

ฉะนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกัน่า จะมีเหตุผลไหนบ้างที่เราไม่ควรที่จะออกกำลังกายในขณะที่ท้องของเรากำลังว่าง ไปดูกันเลย

  • อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ

รู้หรือไม่ว่า การที่เราออกกำลังกายตอนที่ท้องกำลังว่างนั้น จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเราลดต่ำลงได้ ยิ่งถ้าเป็นการออกกำลังกายอย่างหนัก โดยที่ร่างกายไม่มีพลังงาน อาจจะทำให้เรามีอาการวิงเวียนศีรษะได้ง่าย รู้สึกหน้ามืด จนอาจทำให้เราเป็นลมได้นั่นเอง

  • อาจทำให้เราได้รับบาดเจ็บได้

การที่เราออกกำลังกายในขณะที่ท้องกำลังว่างนั้น จะไม่เพียงแต่ทำให้การออกกำลังกายไม่มีประสิทธิภาพ แต่ยังอาจทำให้ร่างกายของเราได้รับบาดเจ็บได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะร่างกายเกิดการสูญเสียพลังงานเยอะ    เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก     แต่ร่างกายมีพลังงานที่ไม่เพียงพอ แถมยังอาจส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อของเรา ทำให้ร่างกายฟื้นฟูยากกว่าปกติ ได้อีกด้วย 

  • อาจทำให้ร่างกายขาดน้ำ

เมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายของเราถูกใช้งานอย่างหนัก จากการออกกำลังกาย โดยที่ร่างกายของเรามีพลังงาน หรือย้ำที่ไม่เพียงพอ อาจจะทำให้ร่างกายได้รับผลกระทบได้ เพราะการออกกำลังกายน้ำภายในร่างกายจะถูกขับออกมาผ่านทางเหงื่อ เมื่ออกกำลังกายตอนท้องว่า ร่างกายของเราก็จะไม่สามารถทดแทนน้ำที่สูญเสียไปได้นั่นเอง 

วางแผนและดีไซนต์ห้องน้ำให้ถูกต้อง และเสริมพลังงานบวกให้กับคนในบ้าน

ห้องน้ำใครว่าไม่สำคัญ อันที่จริงแล้วห้องน้ำในตามหลักฮวงจุ้ยสามารถทำให้ดีงามและเสริมพลังงานให้กับคนในบ้านได้ และถ้าเกิดว่าหากทำไม่ดีก็จะยิ่งส่งต่อพลังงานลบให้กับในบ้านเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ห้องน้ำหากวางไว้ที่ใต้บันได

เชื่อกันว่าจะทำให้มีปัญหาเรื่องลูก ๆ อีกทั้งหากตั้งหันไปทางทิศใต้ อาจจะทำให้เกิดปัญหาอาการป่วยแก่คนในบ้าน เป็นต้น ดังนั้นให้ปฏิบัติตามนี้

– แสงไฟที่ต้องมีอย่างทั่วถึงทุกที่ในส้วมหรือห้องน้ำ

ฮวงจุ้ยสุขาที่ดี ควรจะดีไซน์ให้มีแสงไฟส่องอย่างทั่วถึง เพราะว่าห้องอาบน้ำเป็นแหล่งสะสมพลังงานลบรวมทั้งเชื้อโรคต่าง ๆ ซึ่งมีผลต่อสุขภาพของคนภายในบ้าน ซึ่งการออกแบบห้องอาบน้ำให้มีช่องแสงสว่างแล้ว    ฮอยอาน่า       ก็ระบายอากาศจะช่วยฆ่าเชื้อโรคและก็ลดเหม็นอับข้างในห้องอาบน้ำได้อีกด้วย

– ส้วมต้องเป็นห้องซึ่งสามารถระบายอากาศได้อย่างดีเยี่ยม

ควรจะวางแบบห้องอาบน้ำให้มีหน้าต่างหรือระบบสำหรับในการระบายอากาศ เพื่อคุ้มครองความมืดมนทึบ เหม็นอับเปียกชื้น รวมทั้งเชื้อโรคที่เกิดขึ้นมาจากการที่อากาศไม่ระบาย ทั้งการออกแบบระบบเกี่ยวกับการระบายอากาศได้ดิบได้ดียังช่วยกำจัดพลังงานลบที่หมุนวนในห้องสุขาออกไปได้อีกด้วย

– เลี่ยงการวางหัวเตียงชิดกับผนังน้ำ

เตียงกับส้วมเมื่ออยู่ใกล้กันเกินความจำเป็น นับได้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกหลักฮวงจุ้ย เพราะฉะนั้นเพื่อความเป็นสิริมงคล ไม่สมควรจัดวางเตียงในตำแหน่งที่ตรงกับประตูห้องอาบน้ำ โดยยิ่งไปกว่านั้นการวางหัวเตียงใกล้กับฝาห้องน้ำ ด้วยเหตุว่าจะทำให้มีปัญหาทางการเงินรวมทั้งสุขภาพแก่ผู้อาศัย

– ไม่สมควรวางแบบส้วมให้ประตูตรงกับประตูห้องอื่น ๆ ข้างในบ้าน

เนื่องจากว่าห้องอาบน้ำเป็นแหล่งสะสมพลังงานลบ การออกแบบบ้าน ตามหลักฮวงจุ้ยก็เลยไม่สมควรสร้างให้ประตูสุขาตรงกับประตูห้องอื่น ๆ ข้างในบ้าน ยกตัวอย่างเช่น ห้องนอนหรือครัว ด้วยเหตุว่าพลังงานลบในห้องสุขาสามารถรั่วไหลไปยังห้องอื่น ๆ ผ่านประตูที่ตรงกัน

ทั้งยังยังทำให้เกิดโทษและส่งผลเสียรวมทั้งไม่ดีต่อสมาชิกด้านในได้อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวางประตูสุขาตรงกับประตูหลักที่เป็นประตูปากทางเข้าบ้าน ด้วยเหตุว่าประตูหลักเป็นประตูที่มีไว้สำหรับรับพลังบวกเข้ามาด้านในภายบ้าน

แม้กระนั้นพลังงานลบจากส้วมจะขัดขวางโชคลาภแล้วก็พลังบวกพวกนั้นออกไป ทำให้ไม่เป็นมงคลกับผู้อาศัยรวมทั้งบ้านของพวกเรา

เป็นไงบ้างกับกระบวนการดีไซน์ห้องสุขาและก็วางแบบบ้านตามหลักฮวงจุ้ย ที่พวกเราเอามาฝากทุกคนในวันนี้ หวังว่าจะมีประโยชน์แก่ท่านใดที่กำลังคิดแผนจะก่อสร้างบ้านไม่มากมายก็น้อย

สังเกตอาการเมื่อสุนัขป่วย

เมื่อสุนัขป่วย การสังเกตุอาการของสุนัขเมื่อป่วยเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้คุณสามารถระบุปัญหาทางสุขภาพได้ทันที ต่อไปนี้คือบางอาการที่คุณสามารถสังเกตุได้เมื่อสุนัขป่วย

1.เปลี่ยนแปลงในพฤติกรรม: สุนัขที่ป่วยมักจะมีเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรม เช่น ไม่อยากเล่น, ไม่สนใจของเล่น, หรือการตื่นนอนมาช้ากว่าปกติ

2.ลดความออกซิเจน: หากสุนัขหอบเหนื่อยหรือหายใจเร็วมาก, น่าจะมีปัญหาทางระบบทางเดินหายใจหรือปัญหาทางหัวใจ

3.การเปลี่ยนแปลงในการรับประทานอาหาร: สุนัขที่ป่วยอาจจะไม่ต้องการกินหรือกินน้อยลง หรืออาจมีอาการอาเจียนหรือท้องเสีย

4.การสะดุดหรือเจ็บปวด: สุนัขที่ป่วยอาจจะมีการสะดุดหรือตัวเจ็บปวด เช่น การหวั่นเป็นจังหวะ, การไม่อยู่สุข, หรือการหลบหลีกจากการสัมผัส

5.สีหูหรือปากเปลี่ยน: การเปลี่ยนแปลงในสีหูหรือปากอาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางสุขภาพ, เช่น สีหูเปลี่ยนเป็นซีดหรือสีแดง

6.ปัญหาในการกลืนหรือน้ำลาย: หากสุนัขมีปัญหาในการกลืนหรือมีปัญหาในระบบทางเดินอาหาร, อาจมีอาการสะบัดที่คอหรือมีน้ำลายมาก

7.เปลี่ยนแปลงในการตัว: การเปลี่ยนแปลงน้ำหนักโดยไม่สามารถอธิบายได้, ทั้งน้อยลงหรือมากขึ้น

8.อาการทางตา: หากมีตาแดง, น้ำตาไหล, หรือมีอาการตาฝั่งหนึ่งหรือทั้งสองข้างปิดตา

9.การหลับหรือทานโดยมีอาการปวด: การแสดงอาการที่เห็นได้ชัดเจนเมื่อสุนัขหลับหรือนอน, เช่น หงุดหงิด, ทำท่าเสียว, หรือเลี่ยงการถูกสัมผัส

หากคุณสังเกตุเห็นอาการเหล่านี้ในสุนัขของคุณ, ควรนำสุนัขไปพบสัตวแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางสุขภาพที่ต้องรับการรักษา

Sprawdzone sposoby na kaca. Jak się pozbyć kaca?

การดุแลรักษาเมื่อสุนัขป่วย

การดูแลและรักษาสุนัขที่ป่วยมีความสำคัญเพื่อให้พวกเขาฟื้นตัวได้เร็วขึ้น นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่คุณสามารถดำเนินการได้

1.พบสัตวแพทย์: หากคุณสังเกตุเห็นสุนัขมีอาการป่วย, นำสุนัขไปพบสัตวแพทย์ทันทีเพื่อการวินิจฉัยและรักษา. สัตวแพทย์จะสามารถให้คำปรึกษาเกี่ยวกับวิธีการรักษาและดูแลที่ถูกต้อง

2.ให้สบาย: ทำให้สุนัขมีที่อยู่ที่สบาย ๆ, สงบ ๆ และมีที่ให้ร่มเงา (หรืออาจให้ไปยืนหรือนอนในที่เงียบสงบ)

3.บริหารการรับประทานอาหารและน้ำ: ให้สุนัขมีเวลาที่เพียงพอในการกินอาหารและดื่มน้ำ หากสุนัขไม่สนใจอาหาร, ต้องสอบถามสัตวแพทย์เพื่อหาวิธีที่ดีที่สุดในการส่งเสริมการรับประทาน

4.การรักษาอาการทางกาย: สัตวแพทย์อาจจะสั่งการให้ยา, การทำการรักษาทางกาย, หรือการรักษาแผนกายภาพตามความจำเป็น

5.การตรวจสอบสุขภาพทุกวัน: ควบคุมอาการของสุนัขอย่างใกล้ชิดและสังเกตุถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เช่น การตรวจสอบแผล, อาการบวม, หรือการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรม

6.ให้เวลาในการพักผ่อน: การให้เวลาในการพักผ่อนมีความสำคัญเพื่อให้ร่างกายสุนัขมีโอกาสฟื้นตัว นอนมากขึ้น, ให้เวลาในการหยุดพัก, และลดกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานมาก

 

 

สนับสนุนโดย      hoiana เวียดนาม

เผยวิธีจัดการความเครียดฉบับวัยทำงาน

แน่นอนว่า วัยทำงานส่วนใหญ่จะต้องเจอกับความเครียด ความกังวลใจในระหว่างการทำงานกันอยู่แล้ว ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นปกติ จนทำให้หลายคนมองข้ามความเครียดที่เกิดขึ้นนั้นไป เพราะคิดว่าไม่รุนแรง แต่ในความเป็นจริงแล้ว

ความเครียด เป็นหนึ่งในปัญหาที่เราควรจะจัดการให้สิ้นสุดลง

เพราะหากเราปล่อยไว้ความเครียดก็จะสะสมมากขึ้น จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย และสุขภาพจิตของเราได้ ยิ่งใครที่อยู่ในช่วงวัยของการทำงาน ยิ่งไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้พบเจอกับความเครียดได้

เพราะทุกคนจะต้องเจอกับความเครียด ไม่ว่าจะหนัก หรือเบาก็ตาม ซึ่งการจัดการปัญหาความเครียดเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อร่างกาย ในสมัยนี้ก็สามารถจัดการได้หลากหลายวิธีที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งบางคนก็จะมีวิธีการเป็นของตนเองอยู่แล้ว

แต่หากใครที่ไม่รู้ว่าจะจัดการกับปัญหาความเครียดอย่างไรดี ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีจัดการกับความเครียดง่าย ๆ ที่จะช่วยให้วัยทำงาน ทำงานได้อย่างราบรื่น โดยไม่เครียดได้ จะมีวิธีไหนบ้าง ไปดูกันเลย 

  • การเลือกใช้อารมณ์ให้เหมาะสม

รู้หรือไม่ว่า การที่เราเลือกใช้อารมณ์ให้เหมาะสม โดยที่ไม่เร่งรีบเกินไป ถือเป็นหนึ่งในวิธีการจัดการกับความเครียดที่ใจเย็นมาก ๆ เพราะหากเราสามารถรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้ และรู้จักที่จะใช้อารมณ์กับมัน

ก็จะช่วยให้เราไม่มีความกังวลกับสถานการณ์มากเกินไป อาจจะทำให้ราใจเย็น และรู้จักการแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งวิธีนี้ถือเป็นวิธีที่จะทำให้เรานั้นเริ่มต้นวันใหม่ ๆ ด้วยอารมณ์ที่สดใส และมีความสุขได้นั่นเอง 

  • การหยุดคิดเล็กคิดน้อย

เราเชื่อว่าความคิดของคนเรานั้นแตกต่างกันออกไป บางคนอาจจคิดมา หรือบางคนอาจจะไม่คิดอะไรเลย ซึ่งก็จะมีความแตกต่างกันออกไป แต่ขอบอกเลยว่า หากเราเจอกับปัญหาความเครียดที่หักมาก ๆ ให้เราลองไม่นำมันเก็บมาคิดให้ปวดหัว ปล่อยให้สมองของเราโล่ง

หรือเราไม่ควรนำเรื่องปวดหัว มาคิดเล็กคิดน้อยจนเป้นปัญหาใหญ่ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เราไม่ต้องมานั่งปวดหัว จนทำให้เรามความเครียดได้ 

  • การมองหางานอดิเรก

เมื่อไหร่ก็ตามที่วัยทำงาน หรือใครก็ตามมีความเครียด ให้เราลองเอาตนเองออกมาจากความเครียดนั้นด้วยการ มองหางานอดเรก เพื่อที่จะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายจากความเครียดนั้น ลองทำให้ตนเองได้สร้างความทรงจำใหม่ ๆ ได้ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ

เพื่อที่จะทำให้เราลืมความเครียดต่าง ๆ ที่เรามีได้นั่นเอง รับรองได้เลยว่าวิธีนี้จะทำให้เราสนุกกับการทำงาน และการใช้ชีวิตไปด้วยได้

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย      hoiana casino

เปิดเคล็ดลับดูแลสุขภาพฉบับผู้หญิง

การดูแลสุขภาพร่างกายให้ดีอยู่เสมอ จากภายในสู่ภายนอก

เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ผู้หญิงอย่างเราไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด

เพราะร่างกายของเรา หากอยากมีสุขภาพที่ดี ก็ควรที่จะสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวของเราเอง และในสมัยปัจจุบันนี้ก็มีวิธีการมากมายหลากหลายวิธีมาก ๆ ที่สามารถช่วยส่งเสริมสุขภาพร่างกายที่ดีให้กับเรา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการออกกำลังกาย การเลือกรับประทานอาหาร รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวันก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยสร้างสุขภาพร่างกายที่ดีให้กับเราได้ ฉะนั้น ขอบอกเลยว่า หากเราต้องการที่จะมีสุขภาพร่างกายที่ดี

ก็ควรหมั่นตรวจเช็คสุขภาพร่างกายของตนเองอยู่เสมอ เพื่อที่เราจะได้แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด

อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่า การดำเนินชีวิตของคนเรานั้นย่อมมีความแตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงที่ต้องทำงานอย่างหนัก จนอาจก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ขึ้นกับสุขภาพร่างกายได้

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หากใครที่ต้องการอยากสร้างสุขภาพร่างกายที่ดีให้ตนเอง หรือหากใครอยากเริ่มต้นหันมาดูแลสุขภาพร่างกาย

วันนี้เราก็จะมาแนะนำวิธีการดูแลสุขภาพง่าย ๆ ฉบับผู้หญิงอย่างเรา จะมีวิธีไหนบ้างที่เราไม่ควรมองข้าม ไปดูกันเลย

1.การเข้ายิมบ่อย ๆ

ถึงแม้ว่าในบางครั้ง หลายคนอาจจะไม่ได้ชื่นชอบ    ครื่องช่วยฟังเล็กจิ๋ว      การออกกำลังกาย หรือไม่ค่อยได้มีเวลาไปออกกำลังกาย

แต่รู้หรือไม่ว่า การที่เราหมั่นเข้ายิมเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้เรานั้นสามารถสร้างสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้นมาได้ ซึ่งการเข้ายิมในแต่ละครั้งนั้น เราก็ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าจะรู้สึกเบื่อ

เพราะอาจจะมีอีกหบาย ๆ คนที่มาออกกำลังกายเช่นกัน ฉะนั้น เราจึงสามารถวางใจได้ เพราะนอกจากเราจะได้สร้างสุขภาพร่างกายที่ดีแล้ว เรายังได้พบเจอกับเพื่อนใหม่ ๆ อีกด้วย

2.การลดการทานอาหารว่าง

รู้หรือไม่ว่า อาหารว่างเป็นหนึ่งในตัวการสำคัญในการทำร้ายสุขภาพร่างกายของเรา ยิ่งเราสาว ๆ เลือกทานไม่เหมาะส

ก็จะยิ่งส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อสุขภาพร่างกายได้ ฉะนั้น หากสาว ๆ คนไหนที่อยากมีสุขภาพร่างกายที่ดีจากภายในสู่ภายนอก สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือ การลด หรือหลีกเลี่ยงการทานอาหารว่างให้น้อยลง

เพื่อเป็นการป้องกันร่างกายของเราจากการถูกทำร้าย แต่อาจจะเป็นการเลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพแทนจะได้กว่านั่นเอง 

3.การเข้านอนให้เป็นเวลา

การที่เรามีกิจวัตรประจำวันอย่างการเข้านอนตรงเวลาอยู่เสมอ เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการสร้างสุขภาพร่างกายที่ดีได้อย่างง่าย ๆ

เพราะหากสาว ๆ เข้านอนตรงเวลาในทุก ๆ วันเป็นประจำ นอกจากจะทำให้ร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอแล้ว

ยังช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย จึงทำให้เราตื่นมารู้สึกสดชื่น มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นได้ 

เคล็ดลับเลือกกินอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพหัวใจ

 

การดูแลอวัยวะต่าง ๆ ภายใสร่างกาย เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หัวใจ ซึ่งเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของเราเป็นอย่างมาก

จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราควรจะให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพหัวใจเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ จะมีพฤติกรรมการทำร้ายสุขภาพหัวใจ หรือเลือกรับประทานอาหารที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพหัวใจของเรา

ฉะนั้น การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หรืออาหารที่สามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของหัวใจ

เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม เพื่อช่วยป้องกันและลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจนั่นเอง ดังนั้น ในสมัยนี้มีอาหารมากมายหลากหลายประเภทให้เราได้เลือกทาน ยิ่งถ้าเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ

เรายิ่งต้องทานเป็นประจำ เพื่อทำให้สุขภาพหัวใจของเราแข็งแรง และใช้งานได้อย่างยาวนานมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคที่เกี่ยวกับหัวใจ หรือมีสุขภาพหัวใจที่ไม่ค่อยแข็งแรง

วันนี้เราก็จะมาแนะนำการเลือกทานอาหารที่สามารถช่วยเพิ่มการทำงานของหัวใจ ยิ่งทานเป็นประจำก็จะยิ่งทำให้สุขภาพหัวใจของเราดียิ่งขึ้น จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

 

ธัญพืช หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าธัญพืชเป็นหนึ่งในอาหารที่หลายคนนั้นเลือกทาน เนื่องจากอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเยอะมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรตีน หรือสารอาหารอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

หากใครที่อยากมีสุขภาพร่างกายที่ดี อยากมีหัวใจที่แข็งแรง การทานอาหารจำพวกธัญพืช เช่น ขนมปังโฮลวีต ข้าวกล้อง ขนมปังที่ทำจากธัญพืช เป็นต้น เพราะอาหารเหล่านี้ย่อมมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจของเราทั้งนั้น แถมยังมีไขมันที่ต่ำ เหมาะสมสำหรับคนที่อยู่ในช่วงของการลดน้ำหนักอีกด้วย 

โปรตีน การที่เราจะดูแลสุขภาพหัวใจให้แข็งแรง รู้หรือไม่ว่า การที่เราเริ่มต้นด้วยการทานอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน อาจจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง และช่วยเพิ่มการทำงานของหัวใจของเราได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรตีนที่มากจากสัตว์

เพราะเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีที่ดีต่อสุขภาพร่างกายของเรา หากใครที่อยากรักษาสุขภาพหัวใจให้แข็งแรง และทำงานได้ยาวนาน ขอบอกเลยว่า การทานอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม 

ผักผลไม้ อย่างที่เราทราบกันดีว่า ผักผลไม้เป็นหนึ่งในอาหารที่ดีต่อสุขภาพมาก ๆ เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารหลากหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เราจึงจำเป็นที่จะต้องทานผักผลไม้ให้มากขึ้น

เพื่อช่วยส่งเสริมการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่สามารถช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจของเราได้อีกด้วย

 

ได้รับการสนับสนุนจาก      เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก